กระดานพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ แหล่งท่องเที่ยว ข่าวสารสำคัญ

3 ขั้นตอนในการทำจุล...
 
Notifications
Clear all

3 ขั้นตอนในการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง

1 Posts
1 Users
0 Likes
275 Views
Posts: 150
Admin
Topic starter
(@admin)
Reputable Member
Joined: 3 years ago

หากเอ่ยถึงการบำรุงรักษาต้นไม้รวมไปถึงพืชผล สิ่งที่เชื่อมโยงรวมไปถึงขาดไม่ได้นั่นก็คือ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เพราะปัจจุบันมีการใช้กันมาก รวมไปถึงให้ผลลัพธ์แล้วว่ามีประโยชน์ในด้านการเกษตรเป็นอย่างมาก แต่จะมีประโยชน์อย่างไรวันนี้มาดูกัน

สำหรับที่นำมาใช้ในการเกษตรรวมไปถึงสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสีม่วง นั่นนับได้ว่าเป็นกลุ่มที่ไม่สะสมกำมะถัน โดยแบคทีเรียชนิดนี้เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีแสง จะเกิดกระบวนการใช้แสง ถ้าหากสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ไม่มีแสงก็เปลี่ยนระบบมาเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้แสง ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

ฉะนั้นจึงนำประโยชน์จากกระบวนการดำรงชีวิตนี้มาใช้ในการปรับปรุงสภาพดิน ให้เหมาะสมกับการดูดซึมสารอาหารของพืช รวมไปถึงช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่พืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้อย่างนี้แล้ว จะไม่ลองทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เองบ้างหรือ

แนะนำจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับทำเกษตร

สูตรการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงให้ติด 100%

ดูเรื่องที่เชื่อมโยงกับ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

เราจะทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง ให้เห็นผลภายในกี่วันถึงจะแดง อ่านเรื่องนี้มีคำตอบ

ก่อนจะทำให้แดง ลองมาดูส่วนผสมกันก่อน อันดับแรกเริ่มให้เตรียมของมาดังนี้

  1. น้ำสะอาด 10 ลิตร
  2. ไข่สด (ไข่เป็ด ไข่ไก่ 1 ฟอง)
  3. สารเร่ง (มีหรือไม่ก็ได้) เช่น ผงชูรส เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว น้ำปลา น้ำตาล ฯลฯ นั่นนับได้ว่าเป็นตัวช่วยเร่งความเร็วในการหมัก

ขั้นตอนการทำไม่ยาก นำไข่สดตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมอื่นตามลงไป เช่น น้ำปลา, นมเปรี้ยว, ผงชูรส, กะปิ, นม หรือน้ำตาล อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นนับได้ว่าส่วนผสมที่เป็นตัวเร่ง ใช้แค่ 1 ช้อนชา (ใส่มากก็เปลือง เพราะไม่ได้ช่วยเร่งปฏิกิริยาอะไรมากมาย โดยหลักการก็ขึ้นอยู่กับแสงแดด) แล้วคนให้เข้ากันดี

เสร็จแล้วนำไข่ที่ตีแล้วเทลงไปผสมกับน้ำสะอาดในขวด อัตราส่วน ไข่ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ลิตรโดยประมาณ ใส่มากกว่านี้ก็เปลือง เพราะไม่ได้ช่วยเร่งปฏิกิริยาอะไรมากมาย โดยหลักการก็ขึ้นอยู่กับแสงแดด เมื่อเทส่วนผสมได้ที่แล้วก็เขย่าๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง จะได้น้ำสีขาวขุ่นๆ แล้วนำไปตากแดดในที่แดดส่องถึงทั้งวัน รอเวลาให้เกิดสีแดง

ไข่ 1 ฟองสามารถผสมกับน้ำได้มากสุด 10 ลิตร นั่นนับได้ว่าพิสูจน์แล้วว่าประหยัดสุดๆ รวมไปถึงได้ผลแน่นอน

ทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง ทำไมออกสีเขียว ทำไมไม่เป็นสีแดง หรือ ทำไมเป็นแต่สีแดง ไม่เคยเจอสีเขียว สีเขียวเป็นตะไคร่หรือเปล่า แล้วใช้รดผัก บำรุงดินได้ไหม หลากหลายคำถาม มีคำตอบตรงนี้...

สาเหตุที่จุลินทรีย์สังเคราะ์แสงเป็นสีเขียว หรือสีแดง เป็นเพราะ "น้ำ" หากใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จะได้ทั้งสีเขียวรวมไปถึงสีแดง เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้มีอยู่ในธรรมชาติแล้วนั่นเอง เราเพียงแค่ ขยายรวมไปถึงเพิ่มจำนวนมันให้มีมากขึ้นเท่านั้นเอง

หมักหัวเชื้อทำเอง ก็สะดวกในการบำรุงพืชผักรวมไปถึงดิน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อปุ๋ย รวมไปถึงฮอร์โมนต่างๆ ให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แถมยังใช้ได้ต่อเนื่องไม่มีผลเสียใดๆ รู้อย่างนี้ ไม่ลองทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงดูไม่ได้แน่นอน

ดูหัวข้ออื่นๆ ที่เชื่อมโยงในเรื่อง วิธีใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ข้อมูลจาก pantip

แต่เดิมเรารู้กันว่า ยิ่งใช้ก็ยิ่งมีประโยชน์ มักจะไม่เจอโทษหรือผลเสียหาย แต่ปัจจุบันมันเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากการใช้จุลินทรีย์ที่เกิดจากการหมักดองประเภทนี้ มันจะทำให้เราได้จุลินทรีย์จริง หรือ อาจได้เชื้อโรคที่เข้าใจว่าเป็นประโยชน์ มีคนสงสัยกันไหมในข้อนี้

ตามที่หลายคนตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าในส่วนของการปนเปื้อนของหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง รวมไปถึงนำมานั่นนับได้ว่าเชื้อที่สามารถก่อโรคระบาดสู่เกษตรกรผู้ใช้ เนื่องจากผลของการใช้ของหมักมาเป็นอาหารให้หัวเชื้อรวมไปถึงเกิดการปนเปื้อน

โทษของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจากการปนเปื้อน

ข้อสังเกตุคือ "ถ้าหากสีแดงที่พบนั้น คือ แบคทีเรียสังเคราะห์แสงจริง น้ำสีแดงหรือสีเขียวก็ไม่ควรจะมีสีเมื่อหมักตั้งไว้ในที่ร่ม เนื่องจากไม่เกิดการสังคราะห์แสงจริง (ไม่โดนแสง)"

ข้อพิสูจน์แล้วคือ "จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถเจริญได้ทั้งในแบบใช้แสงรวมไปถึงไม่ใช้แสง
นอกจากนี้ ไม่เคยพบรายงานใดที่ระบุว่าจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเป็นสาเหตุในการเกิดโรคต่อเกษตรกร นักวิจัยของญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่ค้นพบว่านอกจากจะมีประโยชน์กับพืชแล้ว สามารถผสมอาหารเพื่อเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย"

แต่ก็ยังไม่จบที่ว่า เชื้อที่ก่อโรคสามารถพบได้ตามธรรมชาติทั่วไป เพราะในธรรมชาติ มีจุลินทรีย์หลายชนิดที่สร้าง pigment เม็ดสีในเซลล์ได้ เช่น ยีสต์ รา รวมถึงแบคทีเรีย ถึงจะไม่มีกระบวนการสังเคราะห์แสงแต่เซลล์ก็ยังแดงได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่หลายคนกลัว ว่าการใช้จุลินทรีย์ที่ไม่ได้ผ่านการทำอย่างถูกวิธี จะมีการปนเปื้อนของเชื้อที่ก่อโรคตั้งแต่คราวแรก รวมไปถึงอาจทำให้เกิดโทษมากกว่าได้ประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน

สรุป : แม้ว่าการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เองแบบไม่ได้มาตรฐาน (เฉพาะในห้องแลปเท่านั้นที่จะไม่มีการปนเปื้อน) แต่ในความเป็นจริง ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ระดับการปนเปื้อนจากการผลิตหัวเชื้อ จะสร้างเชื้อก่อโรคจนทำให้เกิดอันตรายต่อเกษตรกรได้จริง เพราะถึงอย่างไร การทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ย่อมได้ประโยชน์มากกว่าโทษอย่างแน่นอน

ติดตามสาระความรู้และเนื้อหาข่าวทันเหตุการณ์ได้จากกระดานข่าวเราที่ 1daynight.com/board/

Trips

ศึกชานม เสือพ่นไฟ VS หมีพ่นไฟ ใครชนะ

ศึกชิงเจ้าตลาดรวมทั้งการละเมิดเครื่องหมายการค้ามีอยู่คู่สังคมไทยมาเนิ่นนาน เหมือนกับการเปิดร้านข้าวมันไก่หน้าปากซอย หากขายดี

บทความน่าสนใจ

ทำไมหาดคลองม่วง ถึงมีคนเที่ยวน้อย

หาดคลองม่วง กระบี่ หลายคนยังไม่รู้จัก บางคนเคยมาแต่ไม่รู้ว่าหาดอะไร เผลอให้เข้าใจว่าคืออ่าวนาง หรือทับแขก เพราะหาดก็ใกล้ ๆ กัน ต่างกันแค่การเดินทาง

Trips

วันเดียวเที่ยวไหนดี มาเลยมีเยอะมาก

แนะนำวันเดียวเที่ยวไหนดี ? good.1daynight.com bodyhealth.1daynight.com